เช้าวันนี้ (24 พ.ย. 63) ณ แปลงโคกหนองนา กัลยาณมิตร บ้านหนองแปน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ นายนพกุล ปัญญาแก้ว รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” ตามโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง
ด้วยจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดการฝึกปฏิบัติโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ จำนวน 2 รุ่น และพบว่ามีผู้เข้ารับการฝึกปฏิบัติ คือ นายศุภมิตร นาทองรัตน์ บ้านหนองแปน หมู่ที่ 2 อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นผู้มีพื้นดินทำกินและมีความตั้งใจที่จะนำความรู้ที่ได้รับมาดำเนินการในพื้นที่ของตนเอง แต่ยังขาดทุนทรัพย์และกำลังแรงงาน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ประสานงานเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน พิจารณาการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน โดยสำรวจพื้นที่ วางแผน ออกแบบ และขุดปรับพื้นที่ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ในการใช้รถแบคโฮจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อพัฒนา เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคกหนองนาโมเดล” ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อไป
โดยประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” ตามโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับเกียรติจาก นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
โคก-หนอง-นา โมเดล คือ การจัดการพื้นที่ซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ โคก-หนอง-นา โมเดล เป็นการที่ให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเองโดยมี มนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสำเร็จเร็วขึ้น อย่างเป็นระบบ
“โคก-หนอง-นา โมเดล” เป็นแนวทางทำเกษตรอินทรีย์และการสร้างชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบดังนี้
1. โคก: พื้นที่สูง
– ดินที่ขุดทำหนองน้ำนั้นให้นำมาทำโคก บนโคกปลูก “ป่า 3อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดำริ
– ปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทำให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทำบุญ ทำทาน เก็บรักษา ค้าขาย และเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย
– ปลูกที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ
2. หนอง: หนองน้ำหรือแหล่งน้ำ
– ขุดหนองเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งหรือจำเป็น และเป็นที่รับน้ำยามน้ำท่วม (หลุมขนมครก)
– ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ำรอบพื้นที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คดเคี้ยวไปตามพื้นที่เพื่อให้น้ำกระจายเต็มพื้นที่เพิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานในการรดน้ำต้นไม้
– ทำ ฝายทดน้ำ เพื่อเก็บน้ำเข้าไว้ในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่โดยรอบไม่มีการกักเก็บน้ำ น้ำจะหลากลงมายังหนองน้ำ และคลองไส้ไก่ ให้ทำฝายทดน้ำเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง
– พัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง และเพิ่มการระบายน้ำยามน้ำหลาก
3. นา:
– พื้นที่นานั้นให้ปลูกข้าวอินทรีย์พื้นบ้าน โดยเริ่มจากการฟื้นฟูดิน ด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ยั่งยืน คืนชีวิตเล็กๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้ำในนาเพื่อคุมหญ้า ทำให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน
– ยกคันนาให้มีความสูงและกว้าง เพื่อใช้เป็นที่รับน้ำยามน้ำท่วม ปลูกพืชอาหารตามคันนา
โดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้มีการขับเคลื่อนโครงการ ตามแนวทาง “โคก หนอง นา โมเดล” ทุกหมู่บ้าน