เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2564 เวลา 08.30 น. ณ ศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายนพกุล ปัญญาแก้ว รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และพนักงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมพิธีถวายพานพุ่มถวายราชสักการะเนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ด้วยคณะรัฐมนตรีมติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2553 เห็นชอบให้วันที่ 17 มกราคม ของทุกปี เป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งกำหนดวันดังกล่าวเป็นวันรัฐพิธี จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงกำหนดจัดงานรัฐพิธี “วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ประจำปี 2564 โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พานพุ่มดอกไม้) ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และอ่านประกาศถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย
พ่อขุนรามคำแหงทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขทัย หรืออีกพระนามที่ไม่ค่อยมีใครทราบ คือ พ่อขุนรามราช ในขณะที่พระองค์มีพระชนมายุ 19 พรรษา ได้เสด็จเข้าร่วมกองทัพกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ผู้เป็นบิดา ไปป้องกันเมืองตากและได้สู้รบกับขุนสามชน จนได้รับชัยชนะ ด้วยความกล้าหาญในครั้งนั้นทำให้พ่อขุนศรีอินทราทิตย์พระราชทานนามให้ว่า รามคำแหง ที่มีความหมายว่า รามผู้กล้าหาญเข้มแข็งในการรบ ภายหลังเมื่อประมาณ พ.ศ. 1822 พ่อขุนรามคำแหงมหาราชก็ได้ขึ้นครองกรุงสุโขทัยสืบต่อมา
ในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ถือว่าเป็นช่วงสมัยที่สุโขทัยมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด เพราะตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคม ที่สามารถค้าขายติดต่อกับบ้านเมืองต่าง ๆ ได้โดยรอบ และยังยอมเป็นเมืองผ่านทางการค้า โดยอนุญาตให้พ่อค้าเอาสินค้าไปค้าขายได้โดยไม่เก็บภาษี ทำให้มีคนมาค้าขายที่สุโขทัยเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้พระองค์ยังได้ทรงรวบรวมแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกันจนเป็นราชอาณาจักรไทยที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่าทุกยุคสมัยที่ผ่านมา พระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติของพระองค์ท่านล้วนแต่เป็นการวางรากฐานแห่งความเจริญไว้ให้แก่ประเทศชาติและปวงชนชาวไทยทุกคนสืบทอดต่อกันมาจวบจนถึงวันนี้เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 700 ปี